top of page

PANTERRA

 
 
Story

ค.ศ. 2094 - ดาวโลก

       

       ช่วงเวลาประมาณ 40 ปีก่อน โลกเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แผ่นทวีปทั่วโลกเคลื่อนตัวจนชนกันเป็นผืนเดียว แผ่นดินของประเทศส่วนใหญ่เกิดความเสียหายอย่างหนัก บางส่วนแตกออกเป็นเกาะจนกระทั่งจมลง หลายเกาะถูกคลื่นยักษ์ถล่มจมหายไปในบาดาล จากหลักฐานที่หลงเหลือเชื่อว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลกจนทำให้เกิดการเลื่อนของแผ่นทวีป จนทำให้ผู้คนทั่วโลกล้มตายเป็นจำนวนมาก ผู้คนทั่วโลกต่างอพยพไปอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยจนรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้และเรียกทวีปที่เหลืออยู่เพียงทวีปเดียวว่า “แพนเทอร์ร่า”

panterra2.jpg

       ทวีปแพนเทอร์ร่าได้ถือกำเนิดในปี ค.ศ. 2054 มนุษยชาติช่วยกันฟื้นฟูเมืองลับขึ้นมาอีกครั้ง โดยตั้งชื่อเมืองว่า "โมโนโครม" ทว่าจากเหตุการณ์นั้นทำให้พันธุกรรมของมนุษย์เกิดความเสียหาย พันธุกรรมของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลง เด็ก ๆ ที่เกิดหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่จะไม่สามารถมองเห็นเฉดสีต่าง ๆ นอกจากสีขาว-ดำได้ จนกระทั่งพวกเขาเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น จึงจะเริ่มมองเห็นเฉดสีเฉพาะตัวได้คนละ 1 สี จากการสำรวจประชากรประจำปี พบว่าไม่มีใครที่มองเห็นสีซ้ำกันเลยในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แม้แต่เด็กฝาแฝดก็ยังเห็นสีที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลไม่มากนักที่จะสรุปหรืออธิบายได้ เชื่อว่ามีสาเหตุเพราะปัจจุบันจำนวนประชากรเกิดใหม่ยังมีจำนวนน้อย ด้วยเหตุนี้สิ่งของต่างๆ จึงนิยมใช้สี ขาว-ดำ เป็นส่วนใหญ่ ผู้คนนิยมการใช้สัญลักษณ์และลวดลายแทนการใช้สี ซึ่งแตกต่างจากโลกที่คนยุคก่อนคุ้นเคย

ทวีปแพนเทอร์ร่า

  • GRANTERRA (แกรนเทอร์ร่า) - แผ่นดินทางทิศตะวันออก เป็นทุ่งหญ้าสลับที่ราบสูงเป็นพื้นที่ที่ยังมีต้นไม้และสัตว์เหลืออยู่บ้าง มนุษย์ที่รอดจากภัยพิบัติใหญ่เดินทางมาตั้งรกรากใหม่บริเวณนี้

    • เมืองโมโนโครมตั้งอยู่ส่วนกลางของแกรนเทอร์ร่า เชื่อว่าเป็นบริเวณของแผ่นทวีปเอเชียในโลกยุคก่อน

  • ICETERRA (ไอซ์เทอร์ร่า) - แผ่นดินทางทิศเหนือ ประกอบไปด้วยเทือกเขาหิมะและน้ำแข็งเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย

  • SANDTERRA (แซนเทอร์ร่า) - แผ่นดินทางทิศตะวันตก ประกอบไปด้วยทะเลทรายกว้างใหญ่ มีอากาศที่ร้อนมากในตอนกลางวัน หนาวติดลบในตอนกลางคืน พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย แทบไม่พบสิ่งมีชีวิต

  • COASTTERRA (โคสเทอร์ร่า) - แผ่นดินทางทิศใต้ มีอากาศร้อนสลับฝน มีชายหาดยาวตลอดฝั่งทางทิศตะวันออก อย่างไรก็ตามพื้นที่ส่วนนี้ประสบปัญหาเรื่องพายุและน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้งทำให้มีมนุษย์อาศัยอยู่น้อยมาก

 
Monochrome city of Granterra
monochromecity.jpg

เมืองโมโนโครม ภูมิภาคแกรนเทอร์ร่า ทวีปแพนเทอร์ร่า

สกุลเงิน: คอยน์

ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

       เหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่ถูกนำไปใช้เพื่อฟื้นฟูเมืองและเทคโนโลยี ทรัพยากรต่างๆ มีจำนวนลดลง ทั้งนี้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่ยังอยู่ระหว่างการสำรวจ

ทวีปแพนเทอร์ร่า

  • ทางทิศเหนือ เป็นเทือกเขาหิมะ

  • ทางทิศตะวันตก เป็นทะเลทราย

  • ทางทิศใต้ เป็นป่าทึบและเกาะร้างที่ยังรอการสำรวจเพิ่มเติม

  • ทางทิศตะวันออก เป็นทุ่งหญ้าสลับที่ราบสูง

  • เมืองโมโนโครมตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของทวีป เชื่อว่าเป็นบริเวณของแผ่นทวีปเอเชียในโลกยุคก่อน

ฤดูกาลในเมืองโมโนโครม

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค-พ.ค.) - อุณหภูมิ 15 ํC ถึง 25 ํC

  • ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) - อุณหภูมิ 25 ํC ถึง 35 ํC

  • ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) - อุณหภูมิ 10 ถึง 25 ํC

  • ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) - อุณหภูมิ -10 ํC ถึง 10 ํ

เทคโนโลยี

  • เครื่องอำนวยความสะดวกของเมืองโมโนโครม เทียบเท่ายุค ค.ศ 2024 เนื่องจากความแปรปรวนของสนามแม่เหล็ก ทำให้ระบบติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียมไม่สามารถใช้การได้ ไม่สามารถใช้ระบบ GPS รายการทีวีจากสัญญาณดาวเทียม การสำรวจทรัพยากร-อากาศ เรดาร์ ฯลฯ อย่างไรก็ตามในส่วนของสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต สามารถใช้รับส่งข้อมูลในวงแคบๆ อย่างภายในเมืองได้ แต่สัญญาณคุณภาพไม่ดีมากนักและไม่สามารถติดต่อกันนอกเมืองได้ รวมไปถึงระบบเก็บข้อมูลออน์ไลน์จะถูกรับส่ง จัดเก็บข้อมูลที่เซิฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งนี้เท่านั้น

ชีวิตความเป็นอยู่

       

ด้านการเมืองการปกครอง

  • ปัจจุบันถูกปกครองโดยคณะผู้นำ นำโดย A ผู้เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ เขาได้นำทางผู้คนที่รอดชีวิต รวบรวมทรัพยากรเพื่อบูรณะบ้านเมือง คนในเมืองจึงแต่งตั้งให้ A เป็นผู้นำประเทศในขณะนี้ 

  • ระบบการปกครองนำโดย A โดยใช้ระบบเสียงข้างมาก โดยใช้เสียงจากตัวแทนที่ชาวเมืองเลือกมาอีกที

  • เนื่องจากปัจจุบันมีประชากรเบาบาง ทางรัฐบาลจึงมีนโยบายสนับสนุนการศึกษาของเด็กที่เกิดใหม่ทุกคน โดยมีการศึกษาภาคบังคับตั้งแต่ ประถม 1-6 ไปจนถึงมัธยมต้น 1-3 และสนับสนุนค่าเล่าเรียนต่อมัธยมปลายได้ฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการ  อ่านข้อมูลเพิ่มเติมในเพจโรงเรียน

       

กฏหมาย 

  • ปัจจุบันใช้กฏเดิมตามยุคสมัยกว่า 50 ปีที่แล้ว (ใช้โลกปัจจุบันอ้างอิง)

  • ปัจจุบันเนื่องจากปัญหาทรัพยากร การเงิน ความสูญเสีย ทำให้อัตราการก่ออาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ภาษาและสกุลเงิน

  • ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง

เชื้อชาติ/สัญชาติ

  • ทุกคนจะถือสัญชาติและเชื้อชาติ “โมโนโครม“ เท่านั้น เนื่องจากทวีปเดิมทั้งหมดได้หายไปเหลือเพียงทวีปไคทอสเท่านั้นทุกคนจึงจัดเป็นชาวไคทอส ต้นตระกูลของพวกเขาคือผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติใหญ่ซึ่งมาจากทั่วทุกมุมโลก

สกุลเงิน​

  • ใช้สกุลเงิน คอยน์ ในการซื้อของ

  • แบ่งเป็นเหรียญ 1,5,10 ธนบัตร 20,50,100,500,1000,10000

  • ค่าเงินอาหารธรรมดาตกจานละ 40 คอยน์

       

อาชีพ 

  • ประชาชนนิยมประกอบอาชีพ เจ้าที่หน้าที่เมือง ครู ค้าขาย เกษตรกรรม งานบริการและอาหาร เป็นส่วนใหญ่

ศิลปะและการแสดง​

  • เนื่องจากสัญญาณมือถือและอินเตอร์เน็ตมีคุณภาพไม่ดีนัก ทำให้รายการโทรทัศน์ไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร ผู้คนกลับมานิยมการแสดงสดต่างๆและละครเวทีมากขึ้น

  • ทางด้านศิลปะนิยมศิลปะที่เน้นเรื่องของเส้น ลวดลายและการใช้พื้นผิวต่าง ๆ มาสร้างงานศิลปะเนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับรู้สีต่างๆ เหมือนคนในยุคก่อน

สถาปัตยกรรม

  • บ้านเมืองส่วนใหญ่เป็นสไตล์โมเดิร์น/ ญี่ปุ่น / เอเชีย ผสมผสานเป็นส่วนใหญ่

  • ผู้คนอาศัยบริเวณใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ รอบนอกเป็นพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรม

COLORLESS WORLD

Setting

 

       เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคอมมูนี้จะอยู่ในปี 2094 (40 ปี หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่) ผู้คนที่เกิดหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ (ปี 2054) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม พวกเข้าเหล่านั้นจะไม่สามารถมองเห็นเฉดสีต่าง ๆ นอกจากสีขาว-ดำได้ จนกระทั่งพวกเขาเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นจะเริ่มมองเห็นเฉดสีเฉพาะตัวได้คนละ 1 สีที่ไม่ซ้ำกัน ส่วนความาสามารถเห็นสีพิเศษของตัวเองนั้นจะคงอยู่นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นๆ

*โดยสรุป: คนที่เกิดก่อนปี 2054 จะมองเห็นสีปกติ คนที่เกิดหลังปี 2054 จะมองเห็นขาว-ดำ + สีของตัวเอง

Unique color (สีอัตลักษณ์)

  • นักเรียนในโรงเรียนจะสามารถมองเห็นสีขาว-ดำ + และสีวัตถุที่เป็นเฉดเดียวกับสีของตัวเองได้
    ตัวอย่าง เด็กที่มีสี #1520A6 จะเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าในขณะที่ เด็กที่มีสี #E3242B จะเห็นท้องฟ้าเป็นสีเทา

uniqueColor.jpg

 

Color sharing (การส่งผ่านสี)

  • การสัมผัสกันจะทำให้การรับรู้สีส่งผ่านกันได้ชัดเจนมากขึ้น สามารถส่งต่อสีของตัวเองให้ผู้อื่นรับรู้ได้

colorsharing.jpg
  • ตัวอย่างเช่น เด็กที่มีสี #1520A6 จับมือเด็กที่มีสี #E3242B  ทำให้เด็กสีแดงเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าตอนที่จับมือกัน  

colorsharing2.jpg
  • นอกจากนี้เมื่อสัมผัสกันจะสามารถมองเห็นสีที่ผสมระหว่างสองสีได้เช่น ท้องฟ้ายามเย็นที่เป็นสีน้ำเงิน-แดง

       ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ จากการสำรวจประชากรประจำปี พบว่าไม่มีใครที่มองเห็นสีซ้ำกันเลยในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แม้แต่เด็กฝาแฝดก็ยังเห็นสีที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลไม่มากนักที่จะสรุปหรืออธิบายได้ เชื่อว่ามีสาเหตุเพราะปัจจุบันจำนวนประชากรเกิดใหม่ยังมีจำนวนน้อย ด้วยเหตุนี้สิ่งของต่างๆ จึงนิยมใช้สี ขาว-ดำ เป็นส่วนใหญ่ ผู้คนนิยมการใช้สัญลักษณ์และลวดลายแทนการใช้สี (เช่นสัญญาณไฟจราจร) ซึ่งแตกต่างจากโลกที่คนยุคก่อนคุ้นเคย ข้อมูลยังอยู่ระหว่างการศึกษาต่อไป

MAP

 
 
City Map
citymap2.jpg

 

แผนที่เมืองโมโนโครม

bottom of page